ธรรมะรับวันใหม่ ภาวนาภาษามือ เรียนรู้กับลมหายใจกับสติ ณ อาคารหอจดหมายเหตุ ชั้น 1 เวทีลานหินโค้ง วันที่ 7 - 8 พฤษภาคม 2554 เวลา 08.00-09.00 น.
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเป็นผู้ที่สวดมนต์เป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว โดยวันแรกของกิจกรรมนั้นผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นตัวแทนองค์กรที่เข้ามาร่วมกิจกรรมภายในงาน และมีปัจเจกชนภายนอกที่เข้ามาร่วมชมงานที่ให้ความสนใจเข้ามาร่วมทำกิจกรรมด้วยจำนวนหนึ่ง ซึ่งโดยรวมแล้วกิจกรรมนี้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 21 คน และวันที่สองของกิจกรรม นอกจากผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ที่เป็นตัวแทนองค์กรที่เข้ามาร่วมกิจกรรม ปัจเจกชนภายนอกแล้ว ยังมีเด็กและเยาวชนจำนวนมากที่ให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมธรรมะรับวันใหม่ ซึ่งโดยรวมแล้วกิจกรรมนี้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 50 คน ภาพน่าประทับใจที่เกิดขึ้นก็คือ คุณตา/คุณปู่ ชวนหลานชายเข้ามาร่วมทำกิจกรรมธรรมะรับวันใหม่ ซึ่งคุณตา/คุณปู่ ก็พยายามให้คำแนะนำแก่หลานในการสวดมนต์ตลอดการทำกิจกรรม ผู้เก็บข้อมูลเห็นว่าเป็นภาพที่พบเห็นได้ไม่มากนัก และยากนักที่เด็กจะสนใจเข้ามาร่วมกิจกรรมทำวัตรสวดมนต์ เจริญสติภาวนาเช่นนี้ การที่ผู้ใหญ่ชักนำ/ชวนให้เด็กเข้ามาทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ย่อมทำให้เด็กได้เกิดการเรียนรู้และได้ศึกษาธรรมไปพร้อมๆ กับญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว เป็นการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว รวมทั้งเป็นกระบวนการขัดเกลาทางสังคมที่ดีวิธีหนึ่งที่จะทำให้เด็กและเยาวชนถูกหลอมไม่ให้ห่างไกลจากธรรมะ หรือพุทธศาสนา จากกิจกรรมนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่าการภาวนาภาษามือผ่านบทเพลงต่างๆ สามารถช่วยสร้างสมาธิให้เกิดขึ้นได้ เนื่องจากเพลงแต่ละเพลงที่นำมาใช้ประกอบการภาวนาภาษามือนั้นเป็นบทเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งใกล้ๆ ตัว ยกตัวอย่างเช่น เพลงดังดอกไม้บาน ที่มีเนื้อหาของเพลงเกี่ยวกับธรรมชาติที่อยู่รอบๆ ตัว ซึ่งภาษามือที่ใช้ในการออกท่าทางประกอบเพลงนั้นก็จะเลียนแบบลักษณะของธรรมชาติต่างๆ เช่น ภูเขา ก็จะต้องทำท่าภูเขา ซึ่งเมื่อทำท่าภูเขานั้นสมองของเราต้องคิดถึงภูเขาในเนื้อเพลงและทำมือให้สอดคล้องกัน การภาวนาจิตใจด้วยภาษามือนี้จึงเป็นเครื่องมือในการสร้างสมาธิที่ดีอีกวิธีหนึ่ง